ใครๆ ก็กล่าวว่าสถาปนิกกับซินแส ถือเป็นขั้วตรงข้ามกัน มาเจอกันทีไร มีเรื่องทะเลาะกันทุกที วันนี้เราก็จะมาขอแชร์ประสบการณ์ในฐานะที่เป็นสถาปนิก แล้วต้องทำงานกับซินแส ทำอย่างไรให้ราบรื่น เป็นทริกเล็กๆ น้อยๆ ที่เจ้าของบ้านควรรู้ก่อนจ้างสถาปนิกและซินแส
เรื่องราวประสบการณ์ซินแส
ก่อนอื่นจะมาขอแชร์เรื่องราวการต่อสู้กับซินแสให้ฟังกันก่อน
โปรเจ็คแรก เป็นรีโนเวทบริษัทยาแห่งหนึ่ง เริ่มต้นมาได้ดี ออกแบบตามหลักการทุกอย่าง เช่น ทิศตะวันตก เป็นทิศที่ร้อนมาก จึงวางเป็นห้องประชุม เพราะไม่ค่อยได้ใช้งาน ส่วนทิศเหนือวางห้องผู้บริหาร เพราะจะไม่ร้อนตลอดวัน เป็นต้น ซึ่งทางเจ้าของชื่นชอบแบบมากๆ ส่งแบบทุกครั้งผ่านหมด จนใกล้จะถึงแบบขั้นสุดท้าย ถ้าจบตรงนี้ ก็จะเตรียมเขียนแบบเพื่อนำไปก่อสร้างแล้ว เผอิญไม่รู้อะไรดลใจ ให้ทางเจ้าของไปหาซินแสมาดู เรื่องก็บังเกิด! เมื่อจู่ๆ สิ่งที่เราออกแบบไว้มันดันผิดฮวงจุ้ย ซินแสบอกว่า ต้องวางห้องผู้บริหารไว้ทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศอะไรสักอย่างตามดวงของเขา และย้ายห้องทุกอย่างทั้งหมด จนสามารถเรียกได้ว่า ออกแบบใหม่ทั้งหมด ! แม้เราจะพยายามให้เหตุผลตามหลักการไป อยู่ทิศนี้ ช่วงบ่ายร้อนมากแน่ๆ จะนั่งไม่ได้นาน แต่ไม่ว่าจะอธิบายเหตุผลไปมากเท่าไร ก็แพ้อยู่ดี สุดท้ายก็ต้องยอมทำตามแบบซินแส และหาทางป้องกันแดดแทน ในโปรเจ็คนี้ นอกจากจะออกแบบใหม่หมด ก็ทำให้เราเรียนรู้ว่า
“การต่อสู้กับความเชื่อ เราไม่มีวันชนะ
หาทางประนีประนอมจะดีกว่า”
เมื่อมาถึงโปรเจ็คที่สองเป็นบ้านสองชั้น โชคดีที่เจ้าของบ้านนี้ บอกแต่แรกว่าเขาจะดูฮวงจุ้ย ดังนั้นเราจึงสามารถเตรียมพร้อมรับมือกับซินแสได้ โดยขั้นต้น ให้ออกแบบร่างคร่าวๆ ไปก่อน แล้วส่งให้ซินแสดูเลย ถ้าจะแก้ไขอะไรก็จะสามารถแก้ไขได้ทันควัน และการส่งแบบต่างๆ ก็ผ่านไปได้ด้วยดี…จนกระทั่งบ้านได้สร้างใกล้จะเสร็จ เจ้าของบ้านเชิญซินแสคนเดิมมาดูอีกครั้ง จู่ๆ ซินแสก็บอกว่า ต้องแก้ ต้องรื้อประตูนี้ ต้องเพิ่มตรงนี้ใหม่…เราก็ อ้าว!? ไหนว่าดูตั้งแต่ต้นจะได้ไม่มีปัญหา ซินแสบอกว่า ดูแค่แปลน เขาคิดไม่ออกว่าออกมามันจะเป็นยังไง พอเห็นของจริงแล้วรู้สึกว่ามันเล็กไปกว่าดวงเจ้าของบ้าน… และแน่นอนว่า สุดท้ายเราก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะความเชื่อได้ เราจึงต้องยอมแก้แบบใหม่ตามหน้างานที่ซินแสบอก แต่ก็ยังโชคดีที่แก้เพียงเล็กน้อย ไม่กระทบอะไรมากนัก เจ้าของบ้านแฮปปี้ เราก็แฮปปี้ โปรเจ็คนี้ ก็ทำให้เราเรียนรู้เพิ่มว่า
“แม้จะเรียกซินแสมาดูก่อนออกแบบแล้ว
แต่พอของจริงสร้าง ก็ต้องแก้อยู่ดี”
จากตัวอย่าง 2 โปรเจ็คข้างต้น เราจะเห็นถึงความแตกต่าง ของการดูฮวงจุ้ยก่อน และหลังการออกแบบว่า ผลกระทบที่ตามมามันมากน้อยแค่ไหน
โปรเจ็คแรก เรียกซินแสมาดูทีหลัง นอกจากสถาปนิกจะต้องออกแบบใหม่ทั้งหมดแล้ว ทางเจ้าของเองก็ต้องเสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายเพราะต้องออกแบบใหม่ การก่อสร้างก็ต้องเลื่อนออกไปอีก หรือหากอยู่ในช่วงการก่อสร้างแล้ว ผู้รับเหมา คนงานก่อสร้างต่างๆ ก็ต้องหยุดงาน เพราะต้องรอแก้แบบใหม่ทั้งหมด รื้อสร้างใหม่ สูญเสียทรัพยากรไปอีกมาก จะได้ว่า ทุกคนล้วนได้ผลกระทบหมด
ส่วนโปรเจ็คที่สอง เรียกซินแสมาก่อน เราจะเห็นว่าแม้จะภายหลังจะมีการแก้ไข แต่ถ้าเทียบกับผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วถือว่าน้อยมาก เพราะงานส่วนใหญ่ ที่ได้ดูฮวงจุ้ยไปแล้วไม่ต้องมีอะไรแก้ เว้นเสียแต่ความผิดพลาดของซินแสเองที่ไม่เข้าใจสัดส่วนเชิงสามมิติ ก็อาจจะทำให้ดูฮวงจุ้ยพลาดไปบ้าง
เจ้าของบ้านท่านใดที่กำลังจะสร้างบ้าน ถ้ารู้ว่าตัวเองมีความเชื่อเรื่องฮวงจุ้ย ก็ขอให้บอกสถาปนิกไว้แต่แรก และให้รีบมาดูก่อนในช่วงออกแบบร่างขั้นต้น จะดีที่สุด และหากจะเชิญซินแสมาดูเมื่อบ้านสร้างเสร็จ ก็ขอให้เป็นซินแสคนเดิมด้วยนะ
หรือหากท่านใดไม่ได้มีความเชื่อ แต่คนรอบข้างของท่านที่มีสิทธิ์ตัดสินใจ หรือมีโอกาสที่ในอนาคตจะโน้มน้าวใจท่านได้ เช่น คนในครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง เชื่อเรื่องฮวงจุ้ย ก็ควรรีบบอก เพราะหากเป็นเช่นนี้ มีโอกาสที่จะเกิดเหตุการณ์แบบโปรเจ็คแรกก็เป็นได้ เพราะไม่ว่าสถาปนิก หรือซินแส ก็อยากให้เจ้าของบ้านได้อยู่บ้านอย่างมีความสุขเช่นกัน
Leave a Review